MMM(45) Textbooks of Medicine

Oxford Textbook of Medicine

Frederick William Price ตีพิมพ์ “Price's Textbook of the Practice of Medicine” เป็นครั้งแรกในเดือนกันยายน ค.ศ. 1922 เขาอยู่จนถึงฉบับพิมพ์ครั้งที่ 8 ในปี ค.ศ. 1950 จากนั้นก็มีคนทำต่ออีก 4 ครั้งจนถึงฉบับพิมพ์ครั้งที่ 12 ในปี ค.ศ. 1978 เกิดปัญหาขึ้นเมื่อ J. R. A Mitchell วิจารณ์ว่าหนังสือเริ่มมีน้ำหนักมากเกินไปคงจะสูญพันธุ์เฉกเช่นเดียวกับที่ไดโนเสาร์สูญพันธุ์เพราะขนาดของมัน

แพทย์ผู้ยิ่งใหญ่ในอังกฤษสามคนคือ Sir David John Weatherall (เกิด 9 มี.ค. 1933), John G. G. Ledingham และ David A. Warrell ต้องการพิสูจน์ว่าความคิดนั้นผิด พวกเขารวบรวมผู้มีชื่อเสียงแต่งตำรานี้ต่อและตีพิมพ์ครั้งแรกในปี ค.ศ. 1983 โดยเปลี่ยนชื่อเป็น “Oxford Textbook of Medicine” และเริ่มเป็นฉบับพิมพ์ครั้งที่ 1 ใหม่ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างดีและยังอยู่มาจนถึงปัจจุบันเป็นฉบับพิมพ์ครั้งที่ 5 ในปี ค.ศ. 2010

Cecil Medicine

Russell LaFayette Cecil (1881-1965)

เกิดวันที่ 13 ตุลาคม ค.ศ. 1881 ที่ Nicholsville, Kentucky ประเทศสหรัฐอเมริกา

เป็นบุตรชายของบาทหลวง Russell Cecil DD กับ Alma Miller Cecil

เขาจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย Princeton ในปี ค.ศ. 1902 และจบแพทย์จาก Medical College of Virginia ในปี ค.ศ. 1906

หน้าร้อนในปี ค.ศ. 1906 เขาอยู่ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย

หน้าหนาวและหน้าร้อนปี ค.ศ. 1907 เขาอยู่ที่จอห์นฮอปกินส์

จากนั้นก็มาเป็น resident พยาธิวิทยาที่โรงพยาบาล Presbyterian ในนิวยอร์ก

ค.ศ. 1911 – 1916 เขาได้รับตำแหน่งที่โรงเรียนแพทย์ของมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ก่อนที่ต่อมาจะเข้าร่วมโรงเรียนแพทย์ของมหาวิทยาลัยคอร์เนลล์ใน New York City

ช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่งเขาเข้าร่วมกองทัพบกสหรัฐฯในวันที่ 16 มิถุนายน ค.ศ. 1917 และออกจากกองทัพในวันที่ 30 กันยายน ค.ศ. 1919 ด้วยยศพันตรีและกลับไปยังโรงเรียนแพทย์ของมหาวิทยาลัยคอร์เนลล์

วันที่ 20 กันยายน ค.ศ. 1923 เขาแต่งงานกับ Eileen Cumming สาวพื้นเมืองในซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ทั้งสองมีลูกชายด้วยกันหนึ่งคนคือ Russell Cumming Cecil (เกิด 6 ต.ค. 1926) ซึ่งต่อมาเป็นสถาปนิกในนิวยอร์ก

ทศวรรษ 1920 Cecil ใช้ตำรา “Principles and Practice of Medicine” ที่ประพันธ์โดย Sir William Osler (1849-1919) แพทย์ชาวแคนาดาผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็นบิดาแห่งอายุรศาสตร์ เขารู้สึกว่าแม้หนังสือจะพึ่งปรับปรุงในปี ค.ศ. 1919 แต่ก็ไม่ทันสมัยเพราะว่า Osler เขียนทั้งเล่มเพียงคนเดียว เขาจึงเชื้อเชิญผู้เชี่ยวชาญ 130 คนเขียนเนื้อหาในส่วนที่ตนเชี่ยวชาญและรวบรวมเป็นตำรา “Cecil Textbook of Medicine” ซึ่งตีพิมพ์เป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1927

ค.ศ. 1928 เขาได้รับ honorary doctorate of science จากวิทยาลัยแพทย์แห่งเวอร์จิเนีย

ค.ศ. 1933 เขาได้รับตำแหน่งศาสตราจารย์และเป็นศาสตราจารย์กิตติคุณในปี ค.ศ. 1950

เขาเสียชีวิตในวันที่ 1 มิถุนายน ค.ศ. 1965 ที่ New York City ขณะนั้นหนังสือของเขากำลังทำฉบับพิมพ์ครั้งที่ 12 อย่างไรก็ตามตำราของเขายังดำรงอยู่มาจนถึงปัจจุบันเป็นฉบับพิมพ์ครั้งที่ 23 ในปี ค.ศ. 2007 และเปลี่ยนชื่อเป็น “Cecil Medicine”

Harrison's Principles of Internal Medicine

Tinsley Randolph Harrison (1900-1978)

เกิดเมื่อ 18 มีนาคม ค.ศ. 1900 ที่ Talladega, Alabama ประเทศสหรัฐอเมริกา

เขาเป็นทายาทรุ่นที่ 6 ที่เป็นแพทย์ในตระกูล Tinsley พ่อของเขา Groce Harrison เป็นแพทย์เช่นกันและเป็นศิษย์เอกของ Sir William Osler บิดาแห่งอายุรศาสตร์

แม้จะเติบโตมากับอายุรศาสตร์แต่เมื่อจบมัธยมตอนอายุ 15 ปีเขาวางแผนจะเข้าเรียนต่อด้านกฎหมายที่มหาวิทยาลัยแห่งมิชิแกน แต่พ่อของเขาโน้มน้าวให้ลองเรียนวิชาแพทย์ที่นั่นดูหนึ่งปี หลังจบหนึ่งปีเขาก็ไปเรียนแพทย์ต่อที่โรงเรียนแพทย์จอห์นฮอปกินส์และจบแพทย์ตอนอายุ 22 ปี

เขาเป็น internship ที่โรงพยาบาล Peter Bent Brigham ในบอสตันสองปีโดยเป็นผู้ช่วยของ Samuel Levine ซึ่งแนะนำให้เขาศึกษาเรื่องระบบไหลเวียนโลหิต ช่วงนี้เขาแต่งงานกับ Betty Woodward ทั้งสองมีลูกด้วยกันสี่คนคือ Emily, Randolph, Betsy และ John

จากนั้นก็กลับไปยังจอห์ฮอปกินส์อีกครั้งเป็นเวลาหนึ่งปีเพื่อเทรนอายุรศาสตร์ภายใต้ Canby Robinson โดยเขายังคงให้ความสนใจในเรื่องระบบไหลเวียนโลหิต เมื่อ Robinson ย้ายไปมหาวิทยาลัย Vanderbilt เพื่อตั้งคณะแพทย์แห่งใหม่ เขาได้ชวน Harrison ไปด้วยและแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้า Resident คนแรก และ Harrison ก็จบการเทรนที่คณะแพทยศาสตร์ของมหาวิทยาลัย Vanderbilt นี้เอง

ในสมัยนั้นยังไม่มีการแยกสาขาเฉพาะทางมากมายแบบทุกวันนี้ อย่างไรก็ตามเสมือนหนึ่งว่าเขาเป็นหทัยแพทย์เพราะสนใจด้านนี้มาก

เขาย้ายที่ทำงานหลายที่ คือเป็นอาจารย์สอนที่โรงเรียนแพทย์ของมหาวิทยาลัย Vanderbilt จากนั้นก็ไปที่โรงเรียนแพทย์ Bowman Gray, มหาวิทยาลัย Wake Forestใน North Carolina และโรงเรียนแพทย์ของมหาวิทยาลัยแห่ง Texas Southwestern ใน Dallas, Texas

ตอนที่อยู่ Dallas นี้เองเขาให้กำเนิดตำรา “Harrison's Principles of Internal Medicine” ในปี ค.ศ. 1950 โดยดึงผู้เชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ มาร่วมเขียนทั้ง Adams, Beeson, Resnik, Thorn และ Wintrobe แม้จะไม่ใช่ตำราที่มีอายุยืนยาวที่สุดแต่กลับได้รับความนิยมเป็นอันดับหนึ่งมาจนถึงปัจจุบัน

สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นมาจากแนวทางการเขียนที่เน้นพยาธิสรีรวิทยาในแต่ละบทของหนังสือ Harrison เองเป็นบรรณาธิการในฉบับพิมพ์ 5 ครั้งแรกโดยรับผิดชอบในส่วนของหัวใจและหลอดเลือด จากนั้นก็ให้ลูกศิษย์คือ Eugene Braunwald (เกิด 15 ส.ค. 1929) รับช่วงต่อ จนล่าสุดฉบับพิมพ์ครั้งที่ 17 ในปี ค.ศ. 2008 ก็ยังมีชื่อของ Braunwald อยู่

ช่วงที่สำคัญที่สุดในชีวิตการงานของเขาคือที่ University of Alabama School of Medicine (UASOM) ใน Birmingham, Alabama ซึ่งเขาเป็นหัวหน้าภาควิชาอายุรศาสตร์และเป็นถึงคณบดีของ UASOM

Harrison เสียชีวิตจากกล้ามเนื้อหัวใจตายที่ Birmingham ในวันที่ 4 สิงหาคม ค.ศ. 1978 ด้วยวัย 77 ปี