วันจันทร์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2553

MMM(33) sphincter of Oddi

Ruggero Oddi (1864-1913)


Ruggero Oddi (ชื่อคริสเตียนคือ Ruggero Ferdinando Antonio Guiseppe Vincenzo) เกิดเมื่อเวลาตีหนึ่งของวันที่ 20 กรกฎาคม ค.ศ. 1864 ที่ 13 Bruschi St ในเมือง Perugia ประเทศอิตาลี เป็นบุตรชายของ Filippo Oddi กับ Zelinda Pampaglini บิดาของเขาเป็นเลขานุการและพนักงานเก็บเอกสารของโรงพยาบาล Perugia

ค.ศ. 1883 เขาเข้าเรียนแพทย์ที่มหาวิทยาลัยแห่ง Perugia แม้จะเป็นเพียงนักศึกษาแพทย์แต่จากพรสวรรค์ในวิชาสรีรวิทยาทำให้เขาได้เข้าร่วมกลุ่มนักวิจัยที่สถาบันสรีรวิทยาของมหาวิทยาลัย ภายใต้การอำนวยการของ Arturo Marccaci (1854 - 1915)

สองร้อยปีก่อน ค.ศ. 1654 แพทย์ชาวอังกฤษ Francis Glisson (1597 – 1677) บรรยายไว้ในตำรา Anatomia hepatis, cui praemittuntur quaedam ad rem anatomicam universe spectantia et ad calcem operis subjiciuntur nonnulla de lymphae ductibus nuper repertis.” ว่าส่วนปลายของท่อน้ำดีที่เข้าสู่ลำไส้เล็กส่วน duodenum นั้นมี circular fiber ล้อมรอบอยู่

ค.ศ. 1887 ขณะเป็นนักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ 4 Oddi ค้นพบว่า circular fiber ดังกล่าวเป็นวงของกล้ามเนื้อเรียบ เขาศึกษาพบว่าน้ำดีจะมีการสร้างอย่างต่อเนื่องแต่ไม่ได้ไหลเข้าสู่ลำไส้เล็กตลอดเวลาตามแรงโน้มถ่วง สาเหตุก็เพราะมีวงของกล้ามเนื้อเรียบนี้ทำหน้าที่เป็นหูรูด (sphincter) คอยควบคุมการไหลของน้ำดี

เขาศึกษาในสัตว์หลายชนิดทั้งหมู หมา แกะ วัวและคน ก็พบเช่นกัน น้ำดีที่สร้างออกมาจะพักเก็บไว้ที่ถุงน้ำดี สำหรับสัตว์ที่ไม่มีถุงน้ำดีนั้นท่อน้ำดีก็จะมีขนาดใหญ่เพื่อทำหน้าที่แทน สัตว์บางชนิดที่ duct of Wirsung เปิดเข้าสู่ลำไส้เล็กแยกจากท่อน้ำดีก็พบว่ามีหูรูดด้วยเช่นกัน

เขาตีพิมพ์การค้นพบดังกล่าวใน Archives Italiennes de biologie เป็นภาษาฝรั่งเศสใช้ชื่อบทความว่า “D’une disposition e sphincter speciale de l’ouverture du canal choledoque.” ขณะเดียวกันก็ตีพิมพ์ในภาษาอิตาลีด้วยใช้ชื่อบทความว่า “Di Una Speciale Disposizione a Sfintere allo Sboceo del Coledoco.”

เนื่องจากมหาวิทยาลัยแห่ง Perugia ไม่สามารถมอบปริญญาแพทย์ได้ Marccaci เห็นความสามารถของ Oddi จึงฝากฝังให้เข้าเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยแห่ง Bologna โดยเขาทำงานต่อที่ห้องปฏิบัติการด้านสรีรวิทยาของ Pietro Albertoni (1849-1943) ซึ่งเป็นอาจารย์ของ Marccaci นั่นเอง

ที่นี่เขาศึกษาการทำงานของหูรูดด้วยการสอดท่อเข้าไปในท่อน้ำดี วัดความดันของน้ำดีที่ตับหลั่งออกมาเปรียบเทียบกับที่ปลายของท่อน้ำดี เขาตีพิมพ์ผลการศึกษาใน Archivio Per Le Scienze Mediche เมื่อปี ค.ศ. 1888

ปีต่อมาเขาย้ายไปที่ Reale Instituto Superiore di Perfezionamento ในเมือง Florence ซึ่งเขาได้รับปริญญาแพทยศาสตร์และศัลยศาสตร์ที่นี่เอง หลังจบเขาก็ได้รับตำแหน่งผู้ช่วยผู้อำนวยการที่สถาบันสรีรวิทยาใน Florence โดยผู้อำนวยการคือ Luigi Luciani (1840–1919) แพทย์ชาวอิตาลีผู้มีชื่อเสียง

มิถุนายน ค.ศ. 1891 Adelaide ลูกก่อนสมรสของเขากับ Teresa Bresciani Bartoli สาววัย 23 ปีก็ลืมตาดูโลก วันที่ 15 ตุลาคม ค.ศ. 1891 เขาแต่งงานกับเธอ ต่อมามีนาคม ค.ศ. 1893 Enrico ลูกคนที่สองของเขาก็เกิดที่ Perugia

ค.ศ. 1893 เขาได้รับทุนรัฐบาลไปศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยแห่ง Strasburg ประเทศฝรั่งเศส ภายใต้แพทย์ชาวเยอรมัน Oswarld Schmiedeberg (1838–1921) ที่นี่ Oddi แยก Chondroitin sulfate ได้จาก coamyloid นอกจากนี้เขายังมีผลงานอีกหลายเรื่องจนทำให้เขาเป็นคนมีชื่อเสียง

ค.ศ. 1894 Luciani เจ้านายของเขาที่ Florence ได้เสนอชื่อให้ Oddi เป็นประธานสถาบันสรีรวิทยาแห่ง Genoa เขาดำรงตำแหน่งนี้เป็นเวลา 7 ปีจนกระทั่งปี ค.ศ. 1901 แล้วจู่ ๆ เขาก็หันหลังให้กับทุกอย่าง

ชีวิตเขาตกต่ำลงเรื่อย ๆ จนกระทั่งเสียชีวิตเมื่อวันที่ 22 มีนาคม ค.ศ. 1913 ที่ประเทศ Tunisia ในแอฟริกาเหนือด้วยวัยเพียง 49 ปี

แม้จะไม่ใช่ผู้ค้นพบกายวิภาคศาสตร์ของหูรูดของท่อน้ำดีเป็นคนแรก แต่จากการค้นพบสรีรวิทยาของมัน สิ่งนี้จึงได้รับการตั้งชื่อว่า sphincter of Oddi และการอักเสบของมันเรียกว่า Odditis

ไม่มีความคิดเห็น: