วันจันทร์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2553

MMM(58) Hodgkin-Key murmur

Thomas Hodgkin (1798-1866)


เกิดวันที่ 17 สิงหาคม ค.ศ. 1798 ที่เมือง Pentoville, St. James Parish, Middlesex ประเทศอังกฤษ

เขาเป็นบุตรชายคนที่สามในบรรดาสี่คนของ John Hodgkin กับ Elizabeth Rickman

พี่ชายทั้งสองคนเสียชีวิตตั้งแต่ยังเด็ก

ครอบครัวของเขาเป็นสมาชิกสมาคมเคร่งศาสนา (Quaker) ในอังกฤษที่ชื่อ Society of Friends เขากับน้องชายจึงถูกห้ามเต้นและอ่านนวนิยาย ต้องแต่งกายเรียบง่ายและทำกิจกรรมต่าง ๆ อย่างเงียบ ๆ ทั้งสองเรียนที่บ้านกับบิดาของพวกเขาเอง

เขาสนใจด้านไฟฟ้า กลศาสตร์และเคมี เขามีความรักให้กับลูกพี่ลูกน้องที่ชื่อ Sarah Adler แต่ทั้งสองไม่ได้แต่งงานกันเพราะ Quaker ห้ามแต่งงานกับลูกพี่ลูกน้อง

เดือนกันยายน ค.ศ. 1819 เขาเข้าเรียนแพทย์ที่โรงเรียนแพทย์ของโรงพยาบาล St. Thomas และ Guy ด้วยวัย 21 ปี (เข้าเรียนช้าไปหน่อย) หนี่งปีต่อมาเข้าก็ไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยแห่ง Edinburgh

ค.ศ. 1821 เขาไปศึกษาเพิ่มเติมที่ประเทศอิตาลีและฝรั่งเศส ที่ฝรั่งเศสเขาเรียนกับ René-Théophile-Hyacinthe Laennec (1781-1826) แพทย์ชาวฝรั่งเศสผู้พึ่งคิดค้นหูฟังเสียงร่างกาย (stethoscope) เมื่อกลับไปอังกฤษเขาก็นำความรู้เรื่องนี้กลับไปเผยแพร่ด้วย

เขาจบแพทย์ที่มหาวิทยาลัยแห่ง Edinburgh ในปี ค.ศ. 1823 ด้วยวิทยานิพนธ์เรื่อง physiological mechanisms of absorption in animals

หลังจบเขาก็เดินทางท่องไปในยุโรป ตอนอยู่ที่ประเทศอิตาลีเขาได้รู้จักกับตระกูล Montefiore ครอบครัวชาวยิวผู้มั่งคั่ง หนึ่งในนั้นคือ Sir Moses Haim Montefiore (1784-1885) ซึ่งกลายเป็นเพื่อนสนิทกันในเวลาต่อมา

ค.ศ. 1825 เขาเป็นผู้บรรยายด้านพยาธิกายวิภาคศาสตร์และเป็นภัณฑารักษ์ของพิพิธภัณฑ์พยาธิวิทยาของโรงเรียนแพทย์แห่งโรงพยาบาล Guy

ค.ศ. 1929 เขาตีพิมพ์ตำราด้านพยาธิวิทยาที่ชื่อ “The Morbid Anatomy of Serous and Mucous Membranes”

ค.ศ. 1832 เขาตีพิมพ์บทความชื่อ “On some morbid appearances of the absorbent glands and spleen” บรรยายถึงผู้ป่วยหลายรายที่มีต่อมน้ำเหลืองและม้ามโต [ค.ศ. 1865 แพทย์ชาวอังกฤษ Sir Samuel Wilks (1824-1911) บรรยายถึงโรคนี้เช่นกัน เมื่อทราบว่า Hodgkin บรรยายไว้ก่อนเขาจึงตั้งชื่อโรคนี้ว่า Hodgkin's disease เพื่อเป็นการให้เกียรติ]

นอกจากนี้เขายังร่วมกับหทัยแพทย์ชาวอังกฤษ Charles Aston Key (1793-1849) บรรยายเสียงผิดปกติของหัวใจที่เหมือนเสียงร้องของนกนางนวล (seagull’s cry) พบในผู้ป่วย aortic regurgitation เรียกว่า Hodgkin-Key murmur

ค.ศ. 1836 ลูกพี่ลูกน้องของเขา Sarah Goodlee สูญเสียสามีไป ทั้งสองเริ่มต้นความสัมพันธ์กันใหม่และคุยกันถึงเรื่องแต่งงาน ค.ศ. 1840 เขาพยายามเปลี่ยนกฎของสมาคมโดยตีพิมพ์บทความที่ชื่อ "On the rule which forbids the marriage of first cousins" แต่ก็ไม่เป็นผล

ค.ศ. 1841 เขาตีพิมพ์ตำราที่สำคัญอีกเล่มคือ “On the Means of Promoting and Preserving Health”

และแล้วความโรแมนติกก็สิ้นสุด เขายุติความพยายามเปลี่ยนกฎดังกล่าวในปี ค.ศ. 1847 และยอมแต่งงานกับ Sarah Frances Callow (1804-1874) ในวันที่ 3 มกราคม ค.ศ. 1849

ปีสุดท้ายในชีวิตของเขาส่วนใหญ่จะอยู่กับ Sir Moses Haim Montefiore ทั้งสองไปเยือนตะวันออกใกล้ (Near East) บ่อย ๆ การเดินทางครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นในฤดูใบไม้ร่วงของปี ค.ศ. 1866 พวกเขาเดินทางไปประเทศอิสราเอลเพื่อไปยังเยรูซาเลม แต่เขาป่วยเป็นโรคบิดจึงไปไม่ถึง ช่วงสุดท้ายของชีวิตเขาได้รับการดูแลจากทูตอังกฤษที่เมือง Jaffa ทางตอนใต้ของ Tel Aviv ประเทศอิสราเอล

เขาเสียชีวิตในวันที่ 5 เมษายน ค.ศ. 1866 ศพของเขาถูกฝังอยู่ที่สุสานในโบสถ์โปรเตสแตนต์ที่เมือง Jaffa นั้นเอง


Charles Aston Key (1793-1849)


เกิดวันที่ 6 ตุลาคม ค.ศ. 1793 ที่กรุงลอนดอน บิดาของเขาเป็นแพทย์ชื่อ Thomas Key

เขาฝึกงานกับบิดาของเขาในปี ค.ศ. 1810 ก่อนจะเรียนที่ Royal College of Surgeons จากนั้นก็ไปฝึกงานกับศัลยแพทย์ชาวอังกฤษ Sir Astley Paston Cooper (1768-1841) ซึ่งต่อมาเขาแต่งงานกับหลานสาวของ Cooper นั่นเอง

เขาเป็นสมาชิกวิทยาลัยศัลยแพทย์ในปี ค.ศ. 1821 และได้รับเลือกจาก Cooper ให้เป็นผู้บรรยายกายวิภาคศาสตร์ที่ St. Thomas’s Hospital

ค.ศ. 1823 เขาเป็นผู้ช่วยศัลยแพทย์ที่โรงพยาบาล Guy และได้เป็นศัลยแพทย์อาวุโสที่โรงพยาบาลแห่งนี้ในปี ค.ศ. 1833

เขาร่วมกับแพทย์ชาวอังกฤษ Thomas Hodgkin (1798-1866) บรรยายเสียงผิดปกติของหัวใจที่เหมือนเสียงร้องของนกนางนวล (seagull’s cry) พบในผู้ป่วย aortic regurgitation เรียกว่า Hodgkin-Key murmur

Key เสียชีวิตเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม ค.ศ. 1849

ไม่มีความคิดเห็น: