วันพฤหัสบดีที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2553

MMM(93) Bartholin's gland

Caspar Bartholin the Elder (1585-1629)


เกิดวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1585 ที่เมือง Malmø ประเทศเดนมาร์ก (ปัจจุบันอยู่ในประเทศสวีเดน)

ตอนอายุ 18 ปีเขาเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยแห่งโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก ก่อนที่จะย้ายไปยัง Rostock และ Wittenberg ประเทศเยอรมนี

เขาเป็นผู้รอบรู้มาก ค.ศ. 1611 เขาตีพิมพ์หนังสือชื่อ “Anatomicae Institutiones Corporis Humani” ซึ่งกลายเป็นตำรามาตรฐานด้านกายวิภาคศาสตร์อยู่นานหลายปี

นอกจากนี้เขายังบรรยายเส้นประสาทสมองคู่ที่ 1 (Olfactory nerve) เป็นคนแรกอีกด้วย

เขาได้รับตำแหน่งศาสตราจารย์ด้านแพทยศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยแห่ง Copenhagen ในปี ค.ศ. 1613 ในเวลาต่อมาเขาสอนวิชาเทววิทยา (theology) ที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ด้วย

เขาแต่งงานกับ Anna บุตรสาวของ Thomas Fincke (1561-1656) ซึ่งเป็นแพทย์ชาวเดนมาร์กเช่นกัน ทั้งสองมีบุตรด้วยกันหกคน เป็นบุตรชายสองคนคือ Thomas Bartholin (1616–1680) และ Rasmus Bartholin (13 ส.ค. 1625 – 4 พ.ย. 1698) ทั้งสองต่างก็เป็นแพทย์เหมือนบิดา

เขาเสียชีวิตเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม ค.ศ. 1629 ที่เมือง Sorø บนเกาะ Zealand ประเทศเดนมาร์ก

Thomas Bartholin (1616-1680)


เกิดวันที่ 20 ตุลาคม ค.ศ. 1616 ที่กรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก

เขาเป็นบุตรคนที่สองจากบรรดาหกคนของแพทย์ชาวเดนมาร์ก Caspar Bartholin the elder (1585-1629)

ค.ศ. 1634 เขาเข้าเรียนวิชาเทววิทยา (theology) ที่มหาวิทยาลัยแห่งโคเปนเฮเกน สามปีต่อมาเขาได้รับทุนจากพระเจ้า Christian IV จากนั้นเขาก็เดินทางไปศึกษาต่อหลายที่ในยุโรป

เขาติดสินใจเรียนแพทย์ในปี ค.ศ. 1637 ขณะอยู่ที่เมือง Leiden ประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยเป็นลูกศิษย์ของ Johannes de Wale (1604-1649) ด้วยความช่วยเหลือของ Wale และแพทย์ชาวดัทช์อีกคนคือ Franciscus Sylvius (1614-1672) ทำให้เขาปรับปรุงตำรากายวิภาคศาสตร์ของบิดา (Anatomicae Institutiones) และตีพิมพ์ครั้งแรกในปี ค.ศ. 1641 ซึ่งในหนังสือได้กล่าวถึงการค้นพบระบบไหลเวียนโลหิตของแพทย์ชาวอังกฤษ William Harvey (1578–1657) และการค้นพบหลอดน้ำเหลือง (lymphatic vessel) ของแพทย์ชาวอิตาลี Gaspare Aselli (1581–1626) ด้วย

เขาป่วยเป็นวัณโรคปอดในปี ค.ศ. 1940 เขาเดินทางไปรักษาที่กรุงปารีส, Orléans และ Montpellier ประเทศฝรั่งเศส สุดท้ายไปยังปาดัว ประเทศอิตาลีอาการวัณโรคปอดจึงดีขึ้น แต่เริ่มเกิดนิ่วในไต

ที่ปาดัวเขาได้เป็นลูกศิษย์ของศัลยแพทย์ชาวเยอรมัน Johann Vesling (1598-1649) ด้วยความช่วยเหลือของ Vesling เขาตีพิมพ์ Anatomicae Institutiones ฉบับปรับปรุงครั้งที่สองในปี ค.ศ. 1645

ค.ศ. 1645 เขาได้รับ doctor of medicine จาก Johann Caspar Bauhin (1606-1685) ที่เมือง Basel ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

ตุลาคม ค.ศ. 1646 เขาเดินทางกลับมายังกรุงโคเปนเฮเกนและรับตำแหน่งศาสตราจารย์ด้านปรัชญา สามปีต่อมาเขาแต่งงานกับ Else Christoffersdatter ทั้งสองมีบุตรด้วยกันหลายคนแต่ที่มีชื่อเสียงที่สุดก็คือ Caspar Bartholin the younger (1655-1738)

แพทย์ชาวเยอรมัน-เดนมาร์ก Simon Paulli (1603-1680) เป็นศาสตราจารย์ของคณะแพทยศาสตร์คนที่สามและเป็นหัวหน้าสถาบันกายวิภาคศาสตร์ที่พระเจ้า Christian IV ก่อตั้งขึ้นเป็นพิเศษแก่ Paulli ในปี ค.ศ. 1639

ค.ศ. 1648 พระเจ้า Christian IV สวรรคต เมื่อพระโอรสของพระองค์คือ Frederik III ขึ้นครองราชย์ต่อจากบิดา Paulli ก็ขอลาออกจากตำแหน่ง

ค.ศ. 1649 เขาได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์ของคณะแพทยศาสตร์ต่อจาก Paulli และได้ครองตำแหน่งหัวหน้าสถาบันกายวิภาคศาสตร์ด้วย โดยลูกศิษย์ที่มีชื่อเสียงที่สุดของเขาคือแพทย์ชาวเดนมาร์ก Niels Stensen (1638-1686)

ค.ศ. 1651 เขาติพิมพ์ Anatomicae Institutiones ฉบับปรับปรุงครั้งที่สาม ฉบับนี้ได้ภาพวาดอันมีค่าของ Vesling และนักกายวิภาคศาสตร์ชาวอิตาลี Giulio Casseri (ราวปี 1552 – มี.ค. 1616) ด้วย

ค.ศ. 1654 เขาบรรยายระบบน้ำเหลืองของมนุษย์อย่างครบถ้วนเป็นครั้งแรกโดยแยกออกมาเป็นอีกระบบในรายงานชื่อ “Vasa lymphatica in homine nuper inventa”

ค.ศ. 1656 เขาบรรยายความผิดปกติแต่กำเนิดชนิดหนึ่งไว้ซึ่ง 300 ร้อยปีต่อมา ค.ศ. 1960 นักพันธุศาสตร์ชาวอเมริกันเชื้อสายเยอรมัน Klaus Patau (1908-1975) พบว่าสาเหตุเกิดจาก trisomy 13 โรคนี้จึงมีชื่อว่า Patau syndrome หรือ Bartholin-Patau syndrome (บางตำราเข้าใจผิดว่าเป็น Rasmus Bartholin)

เนื่องจากโรคนิ่วในไตเป็นเรื้อรังส่งผลให้เขาต้องหยุดงานด้านกายวิภาคศาสตร์ในปี ค.ศ. 1656

ค.ศ. 1661 เขาได้รับตำแหน่ง professor honorarius

ค.ศ. 1663 เขาซื้อบ้านที่ Hagestedgaard ห่างจากกรุงโคเปนเฮเกน 75 กิโลเมตรและได้รับพระราชานุญาตให้เกษียณในปีนี้เอง

ค.ศ. 1670 พระเจ้า Frederik III สวรรคต พระโอรสของพระองค์คือ Christian V ขึ้นครองราชย์ต่อ ปีนั้นเองบ้านของ Bartholin ที่ Hagestedgaard ถูกไฟไหม้ พระเจ้า Christian V ทรงเห็นพระทัยจึงรับเขาเป็นแพทย์ประจำพระองค์และยกเว้นภาษีที่ดินทั้งหมดให้

ค.ศ. 1671 เขาได้รับตำแหน่งอธิการบดีของมหาวิทยาลัยแห่งโคเปนเฮเกน

ค.ศ. 1672 เขาได้รับความไว้วางพระทัยจากพระมหากษัตริย์ให้วางระบบการแพทย์ของเดนมาร์กในศตวรรษข้างหน้า

ค.ศ. 1673 เขาจัดการสอบผดุงครรภ์ขึ้นเป็นครั้งแรกในเดนมาร์กและจัดการตีพิมพ์วารสารทางวิทยาศาสตร์ของเดนมาร์กเป็นครั้งแรกชื่อ Acta medica et philosophica hafniensa

ค.ศ. 1675 สุขภาพของเขาเริ่มแย่ลง เขาขายบ้านที่ Hagestedgaard ในปี ค.ศ. 1680 และกลับไปอยู่กรุงโคเปนเฮเกน ต่อมาเขาเสียชีวิตในวันที่ 4 ธันวาคม ค.ศ. 1680

ศพของเขาถูกฝังอยู่ที่ Vor Frue Kirke (Church of Our Lady) แต่ไม่มีใครทราบตำแหน่งที่ฝัง


Caspar Bartholin the younger (1655-1738)


เกิดวันที่ 10 กันยายน ค.ศ. 1655 ที่กรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก

เขาเป็นบุตรชายของ Thomas Bartholin (1616–1680) และเป็นหลานของ Caspar Bartholin the elder (1585-1629)

เขาเข้าเรียนแพทย์ในปี ค.ศ. 1671

ค.ศ. 1674 เขาได้รับตำแหน่งศาสตราจารย์ด้านปรัชญา หลังจากนั้นเขาก็ไปศึกษาเพิ่มเติมในยุโรปเป็นเวลาสามปี

ค.ศ. 1677 ที่กรุงปารีสเขาทำงานร่วมกับแพทย์ชาวฝรั่งเศส Joseph Guichard Duverney (1648-1730) เขาบรรยายถึงต่อมที่แคมทั้งสองข้างของผู้หญิงทำหน้าที่สร้างสารหล่อลื่น (มีหน้าที่เช่นเดียวกับต่อม Cowper ในผู้ชาย) ต่อมนี้ได้รับการตั้งชื่อว่า Bartholin’s gland (บางตำราเข้าใจผิดว่าเป็น Caspar Bartholin the elder)

ค.ศ. 1678 เขาบรรยายถึง major sublingual duct ซึ่งเป็นท่อนำน้ำลายส่วนหน้าของ sublingual salivary gland เข้าสู่ submandibular salivary duct (Wharton’s duct) สิ่งนี้ได้รับการตั้งชื่อว่า Bartholin's duct

เขาเสียชีวิตในวันที่ 11 มิถุนายน ค.ศ. 1738

ไม่มีความคิดเห็น: