วันอาทิตย์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2553

MMM(22) Father of bronchoscopy

Gustav Killian (1860-1921)


เกิดเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน ค.ศ. 1860 ที่เมือง Mainz ประเทศเยอรมนี บิดาของเขาเป็นครู
หลังจบมัธยมในปี ค.ศ. 1878 เขาก็เข้าเรียนแพทย์ที่มหาวิทยาลัยแห่ง Strassburg
ค.ศ. 1880 ก็เรียนด้านคลินิกที่ Freiburg im Breisgau, Berlin และ Heidelberg เขาสอบผ่านในปี ค.ศ. 1882 หลังจบก็ทำงานที่โรงพยาบาลประจำเมือง Mannheim
ต่อมาเขาไปเรียนต่อด้านหูคอจมูกกับ Hartmann และ Fraenkel ที่ Berlin เนื่องจากหางานไม่ได้เขาจึงตัดสินใจกลับไปตั้งรกรากเป็นแพทย์เวชปฏิบัติที่ Mannheim ในปี ค.ศ. 1887 แต่สี่เดือนต่อมาเขาก็ได้รับตำแหน่งเป็นหัวหน้าหน่วย rhinolaryngology ที่ Freiburg
ค.ศ. 1894 เป็น titular professor
ค.ศ. 1895 ที่การประชุมของ Laryngological society ใน Heidelberg เขาได้เรียนรู้เทคนิคใหม่ของ Kirstein ในการตรวจ larynx และ trachea โดยตรงโดยไม่ใช้กระจก
ค.ศ. 1896 Pieniazek ที่ Krakau รายงานการทำ direct lower tracheoscopy ผ่านทาง tracheostomy โดยไม่เกิดภาวะแทรกซ้อนใด ๆ Killian เล็งเห็นประโยชน์จากสิ่งนี้ เขาดัดแปลง esophagoscope ของ Rosenheim แล้วทดลองใส่ผู้ป่วยทาง tracheostomy เมื่อถีงทางแยกของ trachea เขาก็ใส่ต่อเข้าไปยัง bronchus จึงพบว่ามันมีความยืดหยุ่นพอที่จะส่องกล้องเข้าไปจนใส่ต่อไปไม่ได้เมื่อขนาดของหลอดลมเล็กกว่าขนาดของกล้อง
จากการค้นพบดังกล่าวเขาจึงทำการทดสอบกับศพโดยส่องกล้องเข้าทางปากโดยตรงไม่ต้องผ่าน tracheostomy เมื่อพบว่าทำได้จริงเขาก็กล้าที่จะทดสอบในมนุษย์ซึ่งก็ทำได้จริง ๆ เขารู้ในทันทีว่ามันเป็นการค้นพบที่สำคัญ และนี่ก็คือการค้นพบ direct rigid bronchoscopy นั่นเอง
ค.ศ. 1897 มีชาวนาคนหนึ่งกินซุปแล้วสำลักเศษกระดูกหมู ผู้ป่วยหายใจลำบากเขาฟังเสียงปอดพบเสียง wheezing ที่ปอดขวา เขาใช้อุปกรณ์นี้นำสิ่งแปลกปลอมออกจากหลอดลมขวาของผู้ป่วย ได้เศษกระดูกยาว 11 mm และหนา 3 mm เป็นครั้งแรกที่มีการทำเช่นนี้ ลองคิดดูว่าถ้าคุณสำลักสิ่งแปลกปลอมลงหลอดลมมีผลต่อระบบการหายใจจนทรมาน เมื่อมีคนส่องกล้องเข้าไปในหลอดลมและเอาสิ่งอุดตันนั้นออกมาได้ มันจึงเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่มาก เขาทำแบบเดียวกันในอีกสองรายจนมั่นใจว่าสิ่งนี้ปลอดภัย
29 พฤษภาคม ค.ศ. 1898 เขารายงานเรื่องนี้ในการประชุมครั้งที่ 5 ของสมาคม South German Laryngologists ที่ Heidelberg ปีต่อมาเขาพัฒนาเทคนิคให้ดียิ่งขึ้นจนทำให้ Freiburg เป็นศูนย์กลางของ bronchoscopy แพทย์หลายร้อยคนจากทั่วโลกต่างหลั่งไหลมาฝึกที่นี่
ค.ศ. 1899 เป็นผู้อำนวยการ throat and nose clinic ใน Freiburg
ค.ศ. 1900 เป็น etatmässiger Professor
ค.ศ. 1906 เขาศึกษาผนังของคอหอยและพบว่าพื้นที่สามเหลี่ยมระหว่างกล้ามเนื้อ inferior constrictor และกล้ามเนื้อ cricopharyngeus เป็นตำแหน่งที่อ่อนแอซึ่งทำให้เกิด pharyngoesophageal diverticulum (Zenker's diverticulum) ตำแหน่งนี้มีชื่อเรียกว่า Killian's dehiscence หรือ Killian's triangle
ค.ศ. 1907 เป็น honorary professor
ค.ศ. 1911 เป็น persönlicher Ordinarius ได้รับตำแหน่งผู้อำนวยการ university clinic for diseases of the throat and nose และเป็น Ordinarius ที่ Kaiser-Wilhelms-Akademie, Berlin
ค.ศ. 1920 เป็น etatmässiger Ordinarius
นอกจากนี้เขายังมีผลงานมากมายอาทิ Killian nasal speculum, Killian septum forceps, Killian septum gouge, Killian-Klaus septum gouge, Killian's bundle, Killian's operation, Killian's polyp, Killian-Freer operation, Killian-Jamieson diverticulum และ Killian-Lynch suspension laryngoscope (ร่วมกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านหูและกล่องเสียงชาวอเมริกัน Robert Clyde Lynch) เป็นต้น
Killian ได้รับการยกย่องว่าเป็นบิดาของการส่องกล้องหลอดลม (Father of bronchoscopy) และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลโนเบล 2 ครั้งในปี ค.ศ. 1920 และ 1921 แต่ไม่ได้รับจนกระทั่งเสียชีวิตเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1921

ไม่มีความคิดเห็น: