August Quirinus Bachmann (1652-1723)
เกิดวันที่ 9 ธันวาคม ค.ศ. 1652 ที่เมือง Leipzig ประเทศเยอรมนี
เขาเป็นบุตรชายของ Andreas Bachmann (1601-1656) ศาสตราจารย์ด้านการแพทย์ที่ Leipzig บิดาได้ตั้งชื่อเขาเป็นภาษาละตินว่า Augustus Quirinus Rivinus ซึ่งกลายเป็นชื่อที่รู้จักกันมากกว่า
เขาเรียนหนังสือโดยมีครูส่วนตัว
ค.ศ. 1669 เขาเข้าเรียนแพทย์ที่ Leipzig ภายใต้แพทย์ชาวเยอรมันผู้มีชื่อเสียง 3 ท่านคือ Michael Ettmüller (26 พ.ค. 1644 – 9 มี.ค. 1683), Gottfried Welsch (12 พ.ย. 1618 – 5 ก.ย. 1690) และ Johannes Bohn (20 ก.ค. 1640 – 19 ธ.ค. 1718)
วันที่ 16 เมษายน ค.ศ. 1670 เขาได้รับปริญญาตรีด้านปรัชญาและได้รับ masister ในวันที่ 15 มกราคม ค.ศ. 1671
วันที่ 15 ตุลาคม ค.ศ. 1676 เขาได้ doctorate จากมหาวิทยาลัยแห่ง Helmstädt และได้ habilitated เป็นผู้บรรยายที่มหาวิทยาลัยแห่ง Leipzig ในปี ค.ศ. 1677
ค.ศ. 1678 เขาบรรยาย Rivinus' gland (sublingual gland) และ Rivinus' canals ซึ่งเป็นท่อของ sublingual glands นั่นเอง
ค.ศ. 1691 เขาได้รับตำแหน่งศาสตราจารย์ด้านสรีรวิทยาและพฤกษศาสตร์
ค.ศ. 1717 เขาบรรยาย Rivinus' notch ซึ่งเป็น tympanic part ของ temporal bone โดยเริ่มต้นจาก lesser ไปยัง greater tympanic spines
ค.ศ. 1719 เขาได้รับตำแหน่งคณบดีคณะแพทยศาสตร์ของมหาวิทยาลัย
เขาเสียชีวิตเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม ค.ศ. 1723 จากนิ่วในไตและกระเพาะปัสสาวะ
Henry Jones Shrapnell (1792-1834)
เกิดในปี ค.ศ. 1792
นักกายวิภาคศาสตร์ชาวอังกฤษผู้นี้เป็นคนแบ่งเยื่อแก้วหูออกเป็น 2 ส่วนคือ pars tensa และ pars flaccida ในบทความชื่อ “On the form and structure of the membrana tympani” ตีพิมพ์ใน London Medical Gazette เมื่อปี ค.ศ. 1832
เนื่องจาก pars flaccida เกาะอยู่ที่ Rivinus' notch จึงมีชื่อว่า Rivinus’ ligament หรือเรียกอีกอย่างว่า Shrapnell's membrane
Shrapnell เสียชีวิตในปี ค.ศ. 1834
Alexander Prussak (1839-1897)
เกิดในปี ค.ศ. 1839 ใกล้กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย
เขาเรียนที่ medical-surgical academy ใน St. Petersburg และได้รับ doctorate ในปี ค.ศ. 1862 จากนั้นก็เดินทางไปทำงานด้านโสตวิทยาที่ต่างประเทศ
ค.ศ. 1867 เขาบรรยายถึงช่องว่างเล็ก ๆ ในหูชั้นกลางซึ่งมีขอบเขตดังนี้
ด้านนอกคือ Shrapnell’s membrane (Rivinus’ ligament)
ด้านบนคือ scutum และ malleolar ligament
ด้านล่างคือ short process ของ malleus
ด้านในคือ neck ของ malleus
พื้นที่เล็ก ๆ นี้มีชื่อเรียกว่า Prussak’s space ซึ่งมีส่วนสำคัญในการเกิด cholesteatoma ด้านหน้าและด้านหลังของ Prussak’s space เชื่อมต่อกับ anterior และ posterior pouches of Troeltsch
สำหรับเส้นใย elastic และ connective tissue จาก short process ของ malleus ไปยัง Rivinus' notch ในเยื่อแก้วหูส่วน pars flaccid มีชื่อเรียกว่า Prussak's fibers
เขาเสียชีวิตเมื่อวันที่ 20 มกราคม ค.ศ. 1897 ที่เมือง St. Petersburg
Anton Friedrich Freiherr von Troeltsch (1829-1890)
เกิดวันที่ 3 เมษายน ค.ศ. 1829 เป็นชาวพื้นเมือง Schwabach ในประเทศเยอรมนี
เขาเรียนวิทยาศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยแห่งมิวนิค จากนั้นก็เข้าเรียนแพทย์ที่มหาวิทยาลัยแห่ง Wuerzburg โดยจบในปี ค.ศ. 1853
เขาศึกษาด้านโสตวิทยาที่หมู่เกาะอังกฤษกับโสตแพทย์ชาวอังกฤษ Joseph Toynbee (30 ธ.ค. 1815 – 7 ก.ค. 1866) และศัลยแพทย์ด้านหูและตาชาวไอริช Sir William Robert Wills Wilde (? มี.ค. 1815 – 19 เม.ย. 1876) หลังจากนั้นเขาก็กลับมายัง Wuerzburg
วันที่ 8 ตุลาคม ค.ศ. 1857 เขาแต่งงานกับ Auguste Julie Bauer (1833-1908) ใน Bamberg ทั้งสองมีบุตรสาวด้วยกันสามคน
เขาค้นพบ Troeltsch's recesses ซึ่งอยู่ระหว่างเยื่อแก้วหูกับ malleolar folds ประกอบด้วย 2 ส่วนคือ anterior และ posterior pouches of Troeltsch
นอกจากนี้เขายังคิดค้น Troeltsch forceps อีกด้วย
วันที่ 25 มิถุนายน ค.ศ. 1864 เขาได้รับตำแหน่งรองศาสตราจารย์
ค.ศ. 1877 เขาป่วยเป็น multiple sclerosis
เขาเสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่เมื่อวันที่ 9 มกราคม ค.ศ. 1890
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น