วันเสาร์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2554

MMM(151) Neisseria gonorrhoeae

Albert Ludwig Sigesmund Neisser (1885-1916)


เกิดวันที่ 22 มกราคม ค.ศ. 1885 ที่เมือง Silesian ใน Schweidnitz ประเทศเยอรมนี (ปัจจุบันคือ Swidnica ประเทศโปแลนด์)

เป็นบุตรชายของ Moritz Neisser (1820-1896) แพทย์ชาวยิวผู้มีชื่อเสียง มารดาของเขาเสียชีวิตตั้งแต่เขายังอายุไม่ถึงหนึ่งขวบจึงโตมากับแม่เลี้ยง

เขาเรียน Volksschule ที่ Muensterberg (ปัจจุบันคือ Ziebice) จากนั้นก็ศึกษาต่อที่โรงเรียน St. Maria Magdalena ในเมือง Breslau ประเทศเยอรมนี (ปัจจุบันคือ Wroclaw ประเทศโปแลนด์) โดยเรียนร่วมชั้นกับ Paul Ehrlich (1854–1915) แพทย์ชาวเยอรมันผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาการแพทย์ประจำปี ค.ศ. 1908

เขาจบชั้นมัธยมในปี ค.ศ. 1872 จากนั้นก็เข้าเรียนแพทย์ที่มหาวิทยาลัยแห่ง Breslau (มีไปฝึกงานชั้นคลินิกที่ Erlangen หนึ่งเทอม) โดยจบแพทย์ในปี ค.ศ. 1877 ด้วยวิทยานิพนธ์เรื่อง echinococcosis ภายใต้แพทย์ชาวเยอรมัน Michael Anton Biermer (18 ต.ค. 1827 15 ต.ค. 1892)

ตอนแรกเขาตั้งใจจะเป็นอายุรแพทย์แต่หาที่คลินิกของ Biermer ไม่มีตำแหน่ง ด้วยความบังเอิญในที่สุดก็ได้งานเป็นผู้ช่วยของตจแพทย์ชาวเยอรมัน Oskar Simon (2 ม.ค. 1845 – 2 มี.ค. 1882) โดยเน้นไปที่โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์กับโรคเรื้อน (leprosy)

ค.ศ. 1879 แพทย์ชาวเยอรมันผู้นี้ค้นพบแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของโรคหนองใน(gonorrhea) ซึ่ง Ehrlich เรียกว่า gonococcus (เพื่อเป็นเกียรติแก่ Neisser ค.ศ. 1885 Zopf ตั้งชื่อแบคทีเรียนี้ว่า Neisseria gonorrhoeae)

ค.ศ. 1879 เขาได้เดินทางไปศึกษาผู้ป่วยโรคเรื้อน 100 รายที่ Trondheim, Molde และ Bergen ในนอร์เวย์โดยย้อมสีสารคัดหลั่งจากผู้ป่วยนำกลับมาศึกษาที่เยอรมนี หนึ่งปีต่อมา Neisser ก็ค้นพบว่าแบคทีเรีย Mycobacterium leprae เป็นสาเหตุของโรคเรื้อน[Gerhard Henrik Armauer Hansen (1841–1912) แพทย์ชาวนอร์เวย์เป็นผู้ค้นพบแบคทีเรียดังกล่าวในปี ค.ศ. 1873 แต่ไม่รู้ว่ามันเป็นสาเหตุของโรคเรื้อน ทั้งสองขัดแย้งกันบ้างในเรื่องนี้แต่ท้ายที่สุดโรคเรื้อนก็ได้รับการตั้งชื่อว่า Hansen’s disease]

ค.ศ. 1880 เขาเป็นผู้บรรยายด้านตจวิทยาที่ Leipzig และเป็น privatdozent

ค.ศ. 1882 เขากลับไปรับตำแหน่ง professor extraordinarius ทางด้านตจวิทยาและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และเป็นผู้อำนวยการภาควิชาตจวิทยาที่โรงพยาบาลของมหาวิทยาลัยแห่ง Breslau หนึ่งปีต่อมาเขาก็แต่งงานกับ Toni Kauffmann

ค.ศ. 1892 เขาเปิดคลินิกด้านตจวิทยาแห่งใหม่และกลายเป็นศูนย์วิจัยที่มีชื่อเสียง

งานวิจัยสำคัญอีกเรื่องคือซิฟิลิส เขาร่วมกับ Carl Bruck (1879-1944) ตจแพทย์ชาวเยอรมันและ August Paul von Wassermann (21 ก.พ. 1866 – 16 มี.ค. 1925) นักแบคทีเรียวิทยาชาวเยอรมันคิดค้นการตรวจเลือดเพื่อวินิจฉัยโรคซิฟิลิสด้วยเทคนิค Complement-fixation สำเร็จในปี ค.ศ. 1906 เรียกว่า Wassermann test หรือ Wassermann-Neisser-Bruck reaction ถือเป็นหนึ่งใน serodiagnostic test แรก ๆ ที่ใช้ในทางเวชปฏิบัติ (แต่ปัจจุบันไม่ใช้กันแล้ว)

ค.ศ. 1907 เขาเป็นตจแพทย์คนแรกที่ได้รับตำแหน่ง professor ordinarius ด้านตจวิทยาที่ Breslau

ค.ศ. 1913 เขาเสียใจมากกับการจากไปของภรรยา เขาเป็นเบาหวานและกระดูกต้นขาหักสุขภาพทรุดโทรมลงเรื่อย ๆ ต่อมาเขาเป็นนิ่วที่ไตและไปเอานิ่วออกจากกระเพาะปัสสาวะที่กรุงเบอร์ลินก่อนจะกลับมายัง Breslau แต่เกิดติดเชื้อในกระแสเลือดจนเสียชีวิตเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม ค.ศ. 1916

Neisser ได้รับการยกย่องว่าเป็นบิดาของ gonococcus (Father of gonococcus)

ไม่มีความคิดเห็น: