Hans Christian
Joachim Gram (1853-1938)
เกิดวันที่ 13 กันยายน
ค.ศ. 1853 ที่กรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก
เป็นบุตรคนโตสุดในบรรดา 7 คนของศาสตราจารย์ด้านนิติศาสตร์
Frederik
Terkel Julius Gram (1816-1871) กับ Louise Christiane
Roulund
เขาเรียนที่วิทยาลัย Regansen ก่อนจะจบปริญญาตรีด้านวิทยาศาสตร์ธรรมชาติจากโรงเรียนนครบาลโคเปนเฮเกน (Copenhagen
Metropolitan School) ในปี ค.ศ. 1871 (บิดาเสียชีวิตพอดี) จากนั้นเป็นผู้ช่วยด้านพฤกษศาสตร์ของ
Johannes Japetus Smith Steenstrup (1813-1897) นักสัตววิทยาชาวเดนมาร์ก ความสนใจเกี่ยวกับพืชทำให้เขาได้รู้จักเภสัชวิทยาและการใช้กล้องจุลทรรศน์
ค.ศ. 1878 เขาจบแพทย์จากมหาวิทยาลัยแห่งโคเปนเฮเกน
ค.ศ. 1878 - 1883 เป็นแพทย์ประจำบ้านที่โรงพยาบาลเทศบาลแห่งโคเปนเฮเกนโดยวิทยานิพนธ์ของเขาชื่อ
“On the
size of red blood corpuscles in man (ขนาดของเม็ดเลือดแดงในมนุษย์)”
ได้รับรางวัลเหรียญทองของมหาวิทยาลัยในปี ค.ศ. 1883
เมษายน ค.ศ. 1883
เขาเข้าเรียนหลักสูตรแบคทีเรียวิทยาทางการแพทย์ที่กรุงโคเปนเฮเกนซึ่งจัดโดยศาสตราจารย์
Carl
Julius Salomonsen (1847-1924) ผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็นบิดาแห่งแบคทีเรียวิทยาของเดนมาร์ก
ค.ศ. 1883 – 1885 เขาเดินทางไปศึกษาด้านเภสัชวิทยาและแบคทีเรียวิทยาที่
Strassburg,
Marbug และกรุงเบอร์ลิน สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี
ผลงานที่สร้างชื่อเสียงให้แก่เขาเกิดขึ้นในปี
ค.ศ. 1884 ขณะศึกษาหลังปริญญากับ Carl Friedlander (1847-1887) ศาสตราจารย์ด้านแบคทีเรียวิทยาชาวเยอรมันที่กรุงเบอร์ลิน ขณะศึกษาเนื้อเยื่อปอดของผู้ป่วยที่เสียชีวิตจากปอดอักเสบที่ย้อมด้วย
methyl violet อยู่ Gram บังเอิญทำสารละลาย
Lugol รั่วใส่ชิ้นเนื้อ 20 ตัวอย่าง เมื่อใช้แอลกอฮอล์ล้างเขาต้องประหลาดใจเพราะชิ้นเนื้อเปลี่ยนสีไปถึง
19 ตัวอย่าง เขาได้ค้นพบเทคนิคการย้อมสีแบคทีเรียโดยบังเอิญนั่นเองซึ่งกลายมาเป็นหัตถการพื้นฐานด้านจุลชีววิทยาการแพทย์ที่เรียกว่า
Gram stain การย้อมขั้นแรกต้องทำให้ของเหลวที่ป้ายบนแผ่นแก้วแห้งด้วยการเผาไฟ จากนั้นหยดสารละลาย gential violet ซึ่งมีสีม่วงลงไป
หลังจากล้างน้ำก็หยดสารละลาย Lugol เพื่อให้สีติดแน่นก่อนจะล้างแผ่นแก้วด้วยแอลกอฮอล์ แบคทีเรียที่ย้อมติดสีม่วงเรียกว่า “แกรมบวก (Gram
positive)” ส่วนแบคทีเรียที่ย้อมไม่ติดสีเรียกว่า “แกรมลบ (Gram
negative)” เขาตีพิมพ์ผลงานนี้เป็นบทความชื่อ
“Uber die isolierte Farbung der Schizomyceten in Schnitt- und
Trockenpraparaten (The differential staining of Schizomycetes in sections and
in smear preparations)” ในวารสาร Fortschritte der Medizin ซึ่ง Friedlander เป็นบรรณาธิการอยู่
เขาเป็นคนถ่อมตัวสังเกตได้จากบทความที่ลงท้ายไว้ว่า
“With
this method it is far easier to examine the Schizomycetes, I have therefore
published the method, although I am aware that as yet it is very defective and
imperfect; but it is hoped that also in the hands of other investigators it
will turn out to be useful.” ไม่กี่ปีต่อมา Carl Weigert (1845-1904) ศาสตราจารย์ด้านพยาธิวิทยาชาวเยอรมันที่
Senkenbergsche Stiftung ใน Frakfurt-am-Main ได้เพิ่มขั้นตอนสุดท้ายโดยการย้อมสีด้วย safranin ทำให้แบคทีเรียแกรมลบย้อมติดสีแดง
ค.ศ. 1885
เมื่อเดินทางกลับมายังโคเปนเฮเกนเขาก็ยุติงานด้านแบคทีเรียวิทยาอย่างสิ้นเชิงโดยอุทิศเวลาที่เหลือให้กับเภสัชวิทยาและอายุรศาสตร์ ค.ศ. 1886 – 1889
ได้เป็นรองศาสตราจารย์ด้านเภสัชวิทยาที่มหาวิทยาลัยแห่งโคเปนเฮเกน
ค.ศ. 1889 เขาแต่งงานกับ Louise I. C. Lohse
ค.ศ. 1891
ได้เป็นผู้บรรยายด้านเภสัชวิทยาและปลายปีนั้นเองก็ได้รับตำแหน่งศาสตราจารย์
ค.ศ. 1892
เขาเป็นหัวหน้าแพทย์ด้านอายุรศาสตร์ที่โรงพยาบาล Kongelig Frederiks (ค.ศ.
1910 เปลี่ยนเป็น Rigshopitalet)
ค.ศ. 1900 ภรรยาของเขาเสียชีวิต ปีนี้เองเขาลาออกจากตำแหน่งด้านเภสัชวิทยาเพื่อไปทุ่มเทให้กับงานอายุรศาสตร์เพียงอย่างเดียวจนได้รับตำแหน่งศาสตราจารย์ด้านอายุรศาสตร์กระทั่งเกษียณในปี
ค.ศ. 1923
ค.ศ. 1929 Thomas
Hucker ปรับปรุงเทคนิคการย้อมสีแกรมอีกครั้งรู้จักกันในชื่อ Hucker
modification และนิยมใช้มาจนถึงปัจจุบัน
แม้ว่า Gram จะเสียชีวิตไปแล้วด้วยวัย
85 ปีที่กรุงโคเปนเฮเกนในวันที่ 14 พฤศจิกายน ค.ศ. 1938
แต่ปัจจุบันยังคงมีคนเรียกชื่อเขาอยู่ทุกวันทั่วโลก
เอกสารอ้างอิง
Casanova JM. Bacteria and their dyes: Hans
Christian Joachim Gram. Historia De La Inmunologia 1992;11(4):34-44.
Gram HC. Uber die isolierte Farbung der
Schizomyceten in Schnitt- und Trockenpraparaten. Fortschritte der Medizin
1884;2:185-9.